LINE @

@greenpac

EMAIL

greenpactank@hotmail.com

@greenpac

081 348 1159

EMAIL

น้ำรั่วซึมถังเก็บน้ำ ทำอย่างไรดี?

ถังเก็บน้ำถือเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่แทบทุกบ้านต้องมี โดยเฉพาะในบ้านพักอาศัยที่อยู่ในพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำประปาไหลไม่สม่ำเสมอ หรือบ้านที่อยู่อาศัยหลายชั้นที่ต้องใช้แรงดันน้ำเพิ่ม ตัวถังจึงมีหน้าที่ในการกักเก็บน้ำไว้ใช้สำรองในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้งานไปนานวันเข้าก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ถังน้ำจะเริ่มเสื่อมสภาพ และหนึ่งในปัญหาที่เจ้าของบ้านมักต้องเผชิญก็คือ “น้ำรั่วซึมถังเก็บน้ำ” ซึ่งแม้จะดูเหมือนปัญหาเล็กน้อย แต่หากปล่อยไว้อาจลุกลามจนเกิดความเสียหายกับพื้นที่รอบข้าง หรือทำให้สูญเสียน้ำโดยไม่รู้ตัว บางครั้งค่าน้ำพุ่งสูงผิดปกติทั้งที่ใช้เท่าเดิมก็อาจมีต้นเหตุจากจุดรั่วเหล่านี้ ดังนั้น เมื่อพบร่องรอยการรั่วซึมจากถัง ต้องรีบตรวจสอบและแก้ไขอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันปัญหาบานปลายในอนาคต

น้ำรั่วซึมถังเก็บน้ำ

ตรวจสอบเบื้องต้น หาสาเหตุการรั่วซึม

ก่อนจะแก้ปัญหา เราควรเริ่มจากการตรวจสอบว่าอาการรั่วซึมนั้นเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสาเหตุหลักๆ ของการรั่วซึมจากถังเก็บน้ำมักเกิดจากความเสื่อมของวัสดุที่ใช้ผลิตถัง เช่น ถังพลาสติกหรือไฟเบอร์กลาส เมื่อผ่านแดด ลม ฝน และอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงมานานหลายปี ก็อาจเกิดรอยแตกร้าว รอยรั่ว หรือรูพรุนเล็กๆ ได้โดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากการวางถังบนฐานที่ไม่มั่นคงหรือเอียง ทำให้ถังรับน้ำหนักไม่สมดุลจนเกิดแรงดันภายในไม่สม่ำเสมอ บางกรณีก็เป็นเพราะข้อต่อท่อที่เชื่อมกับถัง เช่น ท่อเข้า-ออก วาล์ว หรือจุดระบายน้ำเกิดการหลวม แตก หรือรั่วจากแรงดันน้ำที่มากเกินไป สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดน้ำรั่วซึมได้ทั้งสิ้น  

เมื่อพบรอยรั่ว หรือบริเวณที่น้ำซึมออกมา ไม่ควรด่วนสรุปว่าต้องเปลี่ยนถังใหม่ทันที เพราะบางครั้งอาการที่ดูเหมือนน้ำรั่วอาจเป็นแค่การควบแน่นของไอน้ำภายนอกถัง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่างกันมากระหว่างกลางวันกับกลางคืน วิธีเช็กง่ายๆ คือ ใช้ผ้าแห้งเช็ดบริเวณที่คิดว่ารั่ว แล้วรอดูว่ามีหยดน้ำกลับมาอีกหรือไม่ ถ้ามีและเป็นจุดเดิมซ้ำๆ แสดงว่าเป็นรอยรั่วจริง แต่หากน้ำไม่หยดซ้ำอีก ก็อาจเป็นเพียงน้ำที่ควบแน่นจากอากาศโดยรอบ อย่างไรก็ตามหากพบว่าเป็นรอยรั่วจริง ควรประเมินขนาดของรอยรั่วนั้นว่าเล็กหรือใหญ่ เพื่อเลือกวิธีซ่อมแซมให้เหมาะสม

สำรวจขนาดรอยรั่ว เพื่อซ่อมแซมอย่างเหมาะสม

สำหรับรอยรั่วขนาดเล็ก เช่น รอยแตกร้าวขนาดเล็ก รอยร้าวเส้นบางๆ หรือรูเล็กๆ สามารถซ่อมแซมได้เองโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนถัง วิธีที่นิยมใช้คือการใช้อีพ็อกซี่ หรือกาวซิลิโคนชนิดกันน้ำที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับพลาสติกหรือไฟเบอร์กลาสโดยเฉพาะ โดยขั้นตอนเบื้องต้นคือปิดวาล์วน้ำให้เรียบร้อย ระบายน้ำออกจากถังให้แห้ง จากนั้นทำความสะอาดพื้นผิวบริเวณที่รั่วให้สะอาดและแห้งสนิท แล้วจึงทากาวหรือวัสดุอุดรอยรั่วให้แน่นหนา ปล่อยทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่ระบุในฉลากก่อนใช้งานอีกครั้ง ในกรณีที่เป็นรอยรั่วแนวข้อต่อท่อ PVC สามารถใช้เทปพันท่อกันน้ำพันเพิ่มหรือเปลี่ยนท่อใหม่หากเสื่อมสภาพแล้ว ซึ่งกาวและเทปมีคุณสมบัติที่เหมาะกับทั้งเก็บน้ำ ดังนี้

กาวอีพ็อกซี่

กาวอีพ็อกซี่ เป็นกาวชนิดพิเศษที่มีความแข็งแรง ทนทาน และกันน้ำได้ดี ใช้สำหรับอุดรอยรั่วหรือรอยแตกร้าวของถังน้ำที่ทำจากพลาสติก ไฟเบอร์กลาส หรือโลหะ โดยสามารถยึดเกาะแน่นแม้ในบริเวณเปียกชื้น และบางรุ่นสามารถใช้งานใต้น้ำได้ เหมาะทั้งกับถังน้ำใช้และถังกักเก็บน้ำดื่ม (ควรเลือกแบบ Food Grade หากใช้กับน้ำดื่ม)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.thaiwatsadu.com

กาวซิลิโคนกันน้ำสำหรับพลาสติก

กาวซิลิโคน คือกาวชนิดยืดหยุ่น ทนความชื้นและรังสียูวี เหมาะสำหรับใช้ซีลหรืออุดรอยรั่วบนวัสดุพลาสติก เช่น ถังน้ำ ท่อ หรืออุปกรณ์กลางแจ้ง โดยไม่หดตัว ไม่แตกร้าว และยึดเกาะแน่นแม้ในสภาพเปียก ควรเลือกสูตรที่ระบุว่า “สำหรับพลาสติก” เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.toagroup.com

เทปพันท่อกันน้ำ

เทปพันท่อกันน้ำ เทปชนิดพิเศษที่ใช้สำหรับซ่อมแซมรอยรั่วของท่อหรือถังเก็บน้ำแบบชั่วคราว ผลิตจากวัสดุกันน้ำ เช่น ซิลิโคนหรือยางบิวทิล สามารถยึดเกาะได้ดีแม้ในสภาพเปียก ใช้งานง่ายโดยการพันรอบบริเวณที่รั่ว ช่วยหยุดการรั่วซึมได้ทันที เหมาะสำหรับซ่อมฉุกเฉินก่อนการแก้ไขถาว

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nanasupplier.com

แต่ถ้ารอยรั่วมีขนาดใหญ่เกินจะซ่อมเองได้ เช่น ถังแตกเป็นแนวยาว เสียรูปทรง หรือมีการรั่วหลายจุดพร้อมกัน อาจต้องพิจารณาให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาประเมิน หรือหากเป็นถังที่ใช้งานมานานกว่า 8-10 ปีแล้ว ก็อาจถึงเวลาเปลี่ยนถังใหม่เพื่อความปลอดภัย เพราะการซ่อมถังในสภาพที่เสื่อมมากๆ อาจอยู่ได้ไม่นาน และเสี่ยงเกิดการรั่วซ้ำภายหลัง ที่สำคัญหากถังตั้งอยู่ในจุดที่หากรั่วจะทำให้ผนังหรือพื้นเสียหาย ก็ไม่ควรเสี่ยงกับการซ่อมแบบชั่วคราว

ป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ

นอกจากการแก้ไขแล้ว การป้องกันไม่ให้เกิดน้ำรั่วซึมซ้ำในอนาคตคือสิ่งที่ควรทำควบคู่กัน โดยเริ่มตั้งแต่การติดตั้งถังน้ำในจุดที่มีฐานแข็งแรงและมั่นคง ไม่เอียง หรือวางบนพื้นที่ที่มีน้ำขังบ่อยๆ หากเป็นไปได้ควรมีการยกถังขึ้นจากพื้นเล็กน้อย เช่น บนแท่นคอนกรีตหรือโครงเหล็ก เพื่อป้องกันความชื้นสะสมที่ฐานของถัง อีกทั้งยังควรเลือกตำแหน่งวางที่ไม่โดนแดดแรงตลอดทั้งวัน เพื่อชะลอการเสื่อมสภาพของวัสดุภายนอก และควรเลือกใช้ถังเก็บน้ำที่ได้มาตรฐาน มีฉลากรับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เพื่อความมั่นใจในคุณภาพวัสดุและอายุการใช้งาน

แม้น้ำรั่วจากถังกักเก็บน้ำจะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เมื่อใช้งานไปนาน ๆ แต่หากเราใส่ใจในการตรวจสอบอยู่เสมอ และรู้จักวิธีซ่อมแซมอย่างถูกต้อง ปัญหานี้ก็สามารถควบคุมได้ ไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อถังใหม่ทุกครั้งเมื่อมีรอยรั่ว การดูแลอย่างสม่ำเสมอ เช่น การล้างถังปีละ 1-2 ครั้ง ตรวจสอบวาล์วและท่อทุก 6 เดือน ก็ช่วยยืดอายุถังให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าไปอีกหลายปี หากสนใจถังเก็บน้ำที่มีคุณภาพสูง และใช้งานได้อย่างยาวนาน สามารถเลือกดูสินค้าได้ที่ GREENPAC ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถังเก็บน้ำ และถังบำบัดน้ำเสีย ภายใต้แบรนด์ GREENPAC และ PCS พร้อมดีไซน์ล้ำสมัย ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ

บทความล่าสุดของเรา