การออกแบบระบบบำบัดน้ำเสียจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการเลือกถังที่เหมาะสม ทั้งในแง่ของรูปแบบ โครงสร้าง และการคำนวณขนาดที่สอดคล้องกับปริมาณน้ำเสียที่จะต้องบำบัด ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพน้ำที่ผ่านกระบวนการ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจปัจจัยสำคัญต่าง ๆ ตั้งแต่หลักการเลือก การคำนวณขนาด ไปจนถึงวิธีการติดตั้ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้ถังบำบัดน้ำเสียที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างแท้จริง
การเลือกถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญมากเมื่อเราต้องติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียในบ้านหรือที่พักอาศัย ถังบำบัดน้ำเสียมีบทบาทในการรักษาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้อยู่อาศัย การเลือกขนาดที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดปัญหาหลายประการ เช่น การล้นของถัง, น้ำเสียซึมออกสู่ดิน, และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเพิ่มเติม
การเลือกถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย เช่น จำนวนผู้อยู่อาศัย, ปริมาณการใช้น้ำ, ประเภทของดิน, และการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กำหนดโดยท้องถิ่น บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมสำหรับบ้านของคุณในปี 2025 พร้อมทั้งเสนอคำแนะนำที่สำคัญเพื่อให้การเลือกขนาดถังของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
การคำนวณขนาดถังบำบัดน้ำเสียเริ่มต้นจากจำนวนผู้อยู่อาศัยในบ้าน หากมีผู้อยู่อาศัยมากขึ้น การผลิตน้ำเสียก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะต้องใช้ถังบำบัดน้ำเสียขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย
หากบ้านของคุณใช้น้ำมากหรือมีการใช้น้ำที่ไม่เป็นมาตรฐาน เช่น การปลูกสวนที่ต้องการใช้น้ำมาก การเลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสียที่ใหญ่ขึ้นจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม
การเลือกถังบำบัดน้ำเสียยังต้องคำนึงถึงประเภทของดินในพื้นที่นั้น ๆ และสถานที่ติดตั้งถัง โดยต้องคำนึงถึงการไหลซึมของน้ำและความสามารถในการบำบัดน้ำเสีย
ในบางพื้นที่อาจมีข้อกำหนดทางกฎหมายที่บังคับให้ติดตั้งถังบำบัดน้ำเสียในขนาดที่เหมาะสมกับจำนวนผู้อยู่อาศัย และต้องสอดคล้องกับการควบคุมมลพิษ
ขนาดถัง(ลิตร) = จำนวนผู้อยู่อาศัย × 0.8 × ปริมาณน้ำต่อคน(ลิตร) × 1.5
ตัวอย่างการคำนวณ
บ้านมีผู้อยู่อาศัย 5 คน
ใช้น้ำเฉลี่ย 200 ลิตรต่อคนต่อวัน
คำนวณขนาดถังบำบัดน้ำเสีย
4 × 0.8 × 200 × 1.5 = 1200 ลิตร
*ปริมาณขั้นต่ำสุด
ดังนั้น บ้านหลังนี้ควรเลือกถังบำบัดน้ำเสียที่มีขนาด 1,600 – 2000 ลิตร
อัตราการสะสมของน้ำเสียจะขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ โดยทั่วไปแล้ว ธุรกิจที่มีการใช้น้ำจำนวนมาก เช่น ร้านอาหาร โรงแรม จะมียอดสะสมน้ำเสียสูงกว่าธุรกิจที่ใช้น้ำน้อย เช่น ร้านขายของชำ สำนักงาน
การเลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมจะช่วยให้การบำบัดน้ำเสียทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
ประสิทธิภาพในการลดสารตะกั่วต้องถูกพิจารณาให้เหมาะสมกับลักษณะของน้ำเสียที่จะบำบัด เช่น ความเข้มข้นของสารตะกั่ว และต้องการให้สารตะกั่วลดลงมากเท่าใด
การเลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสียที่ไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่ปัญหาหลายประการ เช่น การล้นของน้ำเสียหรือการบำรุงรักษาที่บ่อยครั้ง
ความถี่ในการชำระล้าง หรือการปรับปรุงระบบที่ใช้ในถังบำบัดน้ำเสีย เช่น ความถี่ในการดูแลถังบำบัดน้ำเสียหรือการตรวจเช็คและบำรุงรักษาระบบเพื่อประสิทธิภาพในระยะยาว
การเลือกถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างมากในการรักษาประสิทธิภาพของระบบบำบัดน้ำเสียและคุณภาพน้ำที่ออกจากระบบ การพิจารณาขนาดถังที่เหมาะสมต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เช่น จำนวนผู้อยู่อาศัย, การใช้น้ำ, ประเภทดิน, และข้อกำหนดจากท้องถิ่น การเลือกขนาดที่ถูกต้องไม่เพียงแต่ช่วยลดปัญหาต่าง ๆ แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในอนาคต
สนใจติดต่อ บริษัท กรีนโพรดักส์ แอนด์ ไฟเบอร์เทค จำกัด ย่านนนทบุรี เราเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถังบำบัดน้ำเสียและถังเก็บน้ำ PE, FRP และเป็นผู้ออกแบบ ผู้ผลิต ถังเก็บน้ำ ถังบำบัดน้ำเสีย ภายใต้แบรนด์ GREENPAC และ PCS โดยบริษัทมุ่งเน้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มงาน อาทิ โรงงานอุตสาหกรรม ก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน ผู้รับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น
ขนาดของถังบำบัดน้ำเสียมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสีย ถ้าขนาดถังไม่เหมาะสม อาจทำให้การบำบัดน้ำเสียไม่ครบถ้วน หรือถังล้น ซึ่งอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของน้ำใต้ดินหรือปัญหาสุขภาพได้ ดังนั้นการเลือกขนาดถังที่เหมาะสมกับจำนวนผู้อยู่อาศัยและการใช้น้ำจึงมีความสำคัญ
การเลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสียควรพิจารณาจากจำนวนผู้อยู่อาศัยในบ้านหรืออาคาร รวมถึงปริมาณการใช้น้ำและการผลิตน้ำเสีย ถ้าบ้านมีผู้อยู่อาศัยหลายคนและใช้จำนวนมาก ควรเลือกถังที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนถ้าบ้านใช้ปริมาณน้ำน้อยก็สามารถเลือกขนาดเล็กได้
ความถี่ในการทำความสะอาดถังบำบัดน้ำเสียขึ้นอยู่กับขนาดของถังและประเภทของน้ำเสียที่บำบัด โดยทั่วไปควรทำความสะอาดทุก 6 เดือนถึง 1 ปี หรือหากมีการใช้ถังบ่อยและมีน้ำเสียมาก อาจต้องทำความสะอาดบ่อยขึ้น เพื่อลดการสะสมของตะกอนที่อาจทำให้ระบบบำบัดทำงานไม่ได้ผล
การเลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสียที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดปัญหาหลายประการ เช่น การล้นของถัง ซึ่งอาจทำให้น้ำเสียซึมออกมาและปนเปื้อนกับแหล่งน้ำใต้ดิน ส่งผลต่อสุขภาพหรือการเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาในระยะยาว
วัสดุของถังบำบัดน้ำเสีย เช่น คอนกรีต, พลาสติก, หรือไฟเบอร์กลาส มีผลต่อความทนทานและอายุการใช้งาน ถังที่ทำจากวัสดุคอนกรีตมีความแข็งแรงและทนทาน แต่หนักและยากต่อการติดตั้ง ขณะที่ถังพลาสติกและไฟเบอร์กลาสจะเบาและติดตั้งง่าย แต่ต้องระมัดระวังในการเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน
ติดต่อเรา