LINE @

@greenpac

EMAIL

greenpactank@hotmail.com

@greenpac

081 348 1159

EMAIL

เลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสียให้ตรงใจ คู่มือฉบับสมบูรณ์ปี 2025

การออกแบบระบบบำบัดน้ำเสียจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการเลือกถังที่เหมาะสม ทั้งในแง่ของรูปแบบ โครงสร้าง และการคำนวณขนาดที่สอดคล้องกับปริมาณน้ำเสียที่จะต้องบำบัด ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพน้ำที่ผ่านกระบวนการ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจปัจจัยสำคัญต่าง ๆ ตั้งแต่หลักการเลือก การคำนวณขนาด ไปจนถึงวิธีการติดตั้ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้ถังบำบัดน้ำเสียที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างแท้จริง

เลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสีย

ทำไมการเลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมจึงสำคัญ

การเลือกถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญมากเมื่อเราต้องติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียในบ้านหรือที่พักอาศัย ถังบำบัดน้ำเสียมีบทบาทในการรักษาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้อยู่อาศัย การเลือกขนาดที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดปัญหาหลายประการ เช่น การล้นของถัง, น้ำเสียซึมออกสู่ดิน, และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเพิ่มเติม

การเลือกถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย เช่น จำนวนผู้อยู่อาศัย, ปริมาณการใช้น้ำ, ประเภทของดิน, และการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กำหนดโดยท้องถิ่น บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมสำหรับบ้านของคุณในปี 2025 พร้อมทั้งเสนอคำแนะนำที่สำคัญเพื่อให้การเลือกขนาดถังของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจัยหลักในการเลือกขนาด ถังบำบัดน้ำเสีย

1.จำนวนผู้อยู่อาศัยในบ้าน

การคำนวณขนาดถังบำบัดน้ำเสียเริ่มต้นจากจำนวนผู้อยู่อาศัยในบ้าน หากมีผู้อยู่อาศัยมากขึ้น การผลิตน้ำเสียก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะต้องใช้ถังบำบัดน้ำเสียขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย

2.การใช้น้ำและการผลิตน้ำเสีย

หากบ้านของคุณใช้น้ำมากหรือมีการใช้น้ำที่ไม่เป็นมาตรฐาน เช่น การปลูกสวนที่ต้องการใช้น้ำมาก การเลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสียที่ใหญ่ขึ้นจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม

3.ประเภทของดินและสถานที่ติดตั้งถัง

การเลือกถังบำบัดน้ำเสียยังต้องคำนึงถึงประเภทของดินในพื้นที่นั้น ๆ และสถานที่ติดตั้งถัง โดยต้องคำนึงถึงการไหลซึมของน้ำและความสามารถในการบำบัดน้ำเสีย

4.กฎระเบียบและข้อบังคับท้องถิ่น

ในบางพื้นที่อาจมีข้อกำหนดทางกฎหมายที่บังคับให้ติดตั้งถังบำบัดน้ำเสียในขนาดที่เหมาะสมกับจำนวนผู้อยู่อาศัย และต้องสอดคล้องกับการควบคุมมลพิษ

วิธีการคำนวณขนาดถังบำบัดน้ำเสีย

  1. จำนวนผู้อยู่อาศัยในบ้าน: ใช้จำนวนผู้อยู่อาศัยในบ้านเป็นปัจจัยหลักในการคำนวณ

  2. ปริมาณการใช้น้ำ: คำนวณปริมาณการใช้น้ำต่อคนในแต่ละวัน โดยทั่วไปแล้วในประเทศไทยค่าเฉลี่ยการใช้น้ำคือ 200 ลิตรต่อคนต่อวัน

  3. การคำนวณน้ำเสีย: โดยทั่วไปน้ำเสียที่เกิดจากการใช้น้ำจะคิดเป็นร้อยละ 80 ของปริมาณน้ำที่ใช้

  4. ระยะเวลาในการบำบัด: โดยปกติจะใช้ระยะเวลาในการบำบัดประมาณ 1.5 วัน

สูตรการคำนวณขนาดถังบำบัดน้ำเสีย

ขนาดถัง(ลิตร) = จำนวนผู้อยู่อาศัย × 0.8 × ปริมาณน้ำต่อคน(ลิตร) × 1.5

สำหรับอาคารที่พักอาศัย

ตัวอย่างการคำนวณ

  • บ้านมีผู้อยู่อาศัย 5 คน

  • ใช้น้ำเฉลี่ย 200 ลิตรต่อคนต่อวัน

คำนวณขนาดถังบำบัดน้ำเสีย

4 × 0.8 × 200 × 1.5 = 1200 ลิตร 

*ปริมาณขั้นต่ำสุด

ดังนั้น บ้านหลังนี้ควรเลือกถังบำบัดน้ำเสียที่มีขนาด 1,600 – 2000 ลิตร

สำหรับอาคารพาณิชย์

อัตราการสะสมของน้ำเสียจะขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ โดยทั่วไปแล้ว ธุรกิจที่มีการใช้น้ำจำนวนมาก เช่น ร้านอาหาร โรงแรม จะมียอดสะสมน้ำเสียสูงกว่าธุรกิจที่ใช้น้ำน้อย เช่น ร้านขายของชำ สำนักงาน

ข้อดีของการเลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสม

การเลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมจะช่วยให้การบำบัดน้ำเสียทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา

  • ช่วยป้องกันการล้นของน้ำเสีย: ถังที่มีขนาดเหมาะสมจะช่วยป้องกันการล้นของน้ำเสีย ซึ่งอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของน้ำใต้ดิน

  • ลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนของน้ำใต้ดิน: การเลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันไม่ให้มีการปนเปื้อนของน้ำใต้ดิน ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย

  • การบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพ: ถังที่มีขนาดเหมาะสมจะทำให้กระบวนการบำบัดน้ำเสียทำงานได้อย่างเต็มที่

  • ยืดอายุการใช้งานของระบบ: การเลือกขนาดถังที่เหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบถังบำบัดน้ำเสีย และลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว

ประสิทธิภาพในการลดสารตะกั่ว

ประสิทธิภาพในการลดสารตะกั่วต้องถูกพิจารณาให้เหมาะสมกับลักษณะของน้ำเสียที่จะบำบัด เช่น ความเข้มข้นของสารตะกั่ว และต้องการให้สารตะกั่วลดลงมากเท่าใด

  • ความเข้มข้นของสารตะกั่วในน้ำเสีย: การประเมินความเข้มข้นของสารตะกั่วในน้ำเสีย (เช่น COD – Chemical Oxygen Demand, BOD – Biochemical Oxygen Demand) เป็นการทำให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการปรับปรุงระบบสูงพอที่จะลดระดับสารตะกั่วให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด
  • ข้อกำหนดการลดสารตะกั่ว: ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดท้องถิ่นหรือระเบียบกฎหมายที่ต้องการให้น้ำเสียผ่านการบำบัดต้องมีระดับสารตะกั่วที่ต่ำกว่ากี่ ppm หรือมีค่า BOD/COD ต่ำกว่ากี่ %

ข้อผิดพลาดทั่วไปที่ควรหลีกเลี่ยงในการเลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสีย

การเลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสียที่ไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่ปัญหาหลายประการ เช่น การล้นของน้ำเสียหรือการบำรุงรักษาที่บ่อยครั้ง

  • การประเมินความต้องการของบ้านที่ผิดพลาด: ควรประเมินการใช้น้ำในบ้านให้ถูกต้อง หากมีการประเมินที่ผิดพลาด จะส่งผลต่อการเลือกขนาดถังที่ไม่เหมาะสม
  • การไม่พิจารณากฎระเบียบท้องถิ่น: ต้องตรวจสอบกฎระเบียบของท้องถิ่นเพื่อให้แน่ใจว่าขนาดถังที่เลือกนั้นถูกต้องตามข้อกำหนด
  • การไม่คำนึงถึงประเภทของดิน: ดินในพื้นที่ติดตั้งถังมีผลต่อประสิทธิภาพการบำบัดน้ำเสีย การเลือกขนาดถังไม่เหมาะสมกับประเภทดินอาจทำให้การทำงานของระบบไม่ได้ผล
  • การไม่คิดถึงความต้องการน้ำในอนาคต: หากมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนผู้อยู่อาศัยหรือการใช้น้ำในอนาคต ควรคำนึงถึงการขยายขนาดถังบำบัดน้ำเสีย

ความถี่ในการชำระล้างหรือการปรับปรุงระบบ

ความถี่ในการชำระล้าง หรือการปรับปรุงระบบที่ใช้ในถังบำบัดน้ำเสีย เช่น ความถี่ในการดูแลถังบำบัดน้ำเสียหรือการตรวจเช็คและบำรุงรักษาระบบเพื่อประสิทธิภาพในระยะยาว

  • ความถี่: การทำความสะอาดถังบำบัดน้ำเสียต้องทำโดยสม่ำเสมอเพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความถี่ขึ้นอยู่กับขนาดของถังและประเภทของน้ำเสียที่ถูกบำบัด แต่โดยทั่วไปแล้วจะต้องทำการทำความสะอาดอย่างน้อยทุก 6 เดือนถึง 1 ปี หรือตามคำแนะนำของผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายระบบบำบัดน้ำเสีย
  • ตรวจเช็ค: การตรวจเช็คและบำรุงรักษาระบบบำบัดน้ำเสียควรทำเป็นระยะเวลาที่สม่ำเสมอ เพื่อตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์ที่ใช้ในการบำบัด รวมถึงระบบท่อทางที่อาจมีการอุดตันหรือความเสียหาย เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
  • ประเภทของระบบบำบัด: ระบบบำบัดแบบต่าง ๆ ต้องการการดูแลรักษาที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้ว ระบบบำบัดแบบธรรมชาติ เช่น บ่อพักตะกอน หรือ บ่อกรอง จะต้องการการดูแลรักษาน้อยกว่า ระบบบำบัดแบบเติมอากาศ หรือระบบบำบัดแบบไบโอฟิล์ม
  • ประสิทธิภาพการบำบัด: หากประสิทธิภาพการบำบัดของถังลดลง อาจต้องทำการชำระล้างหรือปรับปรุงระบบ
  • กฎหมายและข้อบังคับ: บางท้องถิ่นอาจมีกฎหมายหรือข้อบังคับกำหนดให้ต้องทำการบำรุงรักษาถังบำบัดน้ำเสียเป็นประจำ เพื่อไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย

สรุปบทความการเลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสม

การเลือกถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างมากในการรักษาประสิทธิภาพของระบบบำบัดน้ำเสียและคุณภาพน้ำที่ออกจากระบบ การพิจารณาขนาดถังที่เหมาะสมต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เช่น จำนวนผู้อยู่อาศัย, การใช้น้ำ, ประเภทดิน, และข้อกำหนดจากท้องถิ่น การเลือกขนาดที่ถูกต้องไม่เพียงแต่ช่วยลดปัญหาต่าง ๆ แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในอนาคต

  • เลือกขนาดถังบำบัดตามจำนวนผู้อยู่อาศัยและการใช้น้ำ
  • คำนึงถึงประเภทดินและกฎระเบียบท้องถิ่น
  • การเลือกขนาดที่เหมาะสมช่วยป้องกันการล้นและลดความเสี่ยงของน้ำเสียปนเปื้อน
  • การบำรุงรักษาถังบำบัดต้องทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาประสิทธิภาพ
  • ความถี่ในการทำความสะอาดถังควรเป็นไปตามคำแนะนำของผู้ผลิต

สนใจติดต่อ บริษัท กรีนโพรดักส์ แอนด์ ไฟเบอร์เทค จำกัด ย่านนนทบุรี เราเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถังบำบัดน้ำเสียและถังเก็บน้ำ PE, FRP และเป็นผู้ออกแบบ ผู้ผลิต ถังเก็บน้ำ ถังบำบัดน้ำเสีย ภายใต้แบรนด์ GREENPAC และ PCS โดยบริษัทมุ่งเน้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มงาน อาทิ โรงงานอุตสาหกรรม ก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย  อาคารสำนักงาน ผู้รับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสีย

ขนาดของถังบำบัดน้ำเสียมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสีย ถ้าขนาดถังไม่เหมาะสม อาจทำให้การบำบัดน้ำเสียไม่ครบถ้วน หรือถังล้น ซึ่งอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของน้ำใต้ดินหรือปัญหาสุขภาพได้ ดังนั้นการเลือกขนาดถังที่เหมาะสมกับจำนวนผู้อยู่อาศัยและการใช้น้ำจึงมีความสำคัญ

การเลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสียควรพิจารณาจากจำนวนผู้อยู่อาศัยในบ้านหรืออาคาร รวมถึงปริมาณการใช้น้ำและการผลิตน้ำเสีย ถ้าบ้านมีผู้อยู่อาศัยหลายคนและใช้จำนวนมาก ควรเลือกถังที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนถ้าบ้านใช้ปริมาณน้ำน้อยก็สามารถเลือกขนาดเล็กได้

ความถี่ในการทำความสะอาดถังบำบัดน้ำเสียขึ้นอยู่กับขนาดของถังและประเภทของน้ำเสียที่บำบัด โดยทั่วไปควรทำความสะอาดทุก 6 เดือนถึง 1 ปี หรือหากมีการใช้ถังบ่อยและมีน้ำเสียมาก อาจต้องทำความสะอาดบ่อยขึ้น เพื่อลดการสะสมของตะกอนที่อาจทำให้ระบบบำบัดทำงานไม่ได้ผล

 การเลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสียที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดปัญหาหลายประการ เช่น การล้นของถัง ซึ่งอาจทำให้น้ำเสียซึมออกมาและปนเปื้อนกับแหล่งน้ำใต้ดิน ส่งผลต่อสุขภาพหรือการเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาในระยะยาว

วัสดุของถังบำบัดน้ำเสีย เช่น คอนกรีต, พลาสติก, หรือไฟเบอร์กลาส มีผลต่อความทนทานและอายุการใช้งาน ถังที่ทำจากวัสดุคอนกรีตมีความแข็งแรงและทนทาน แต่หนักและยากต่อการติดตั้ง ขณะที่ถังพลาสติกและไฟเบอร์กลาสจะเบาและติดตั้งง่าย แต่ต้องระมัดระวังในการเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน

บทความล่าสุดของเรา