LINE @

@greenpac

EMAIL

greenpactank@hotmail.com

@greenpac

081 348 1159

EMAIL

ถังบำบัดน้ำเสีย คืออะไร เลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน

การเลือกถังบำบัดน้ำเสียที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการออกแบบระบบการบำบัดน้ำเสีย เนื่องจากรูปแบบของถังบำบัดจะมีผลต่อประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และคุณภาพของน้ำที่ผ่านการบำบัดออกมา บทความนี้เราจะมาทำความรู้จักว่าถังบำบัดน้ำเสีย คืออะไร และการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เพื่อให้การติดตั้งถังเก็บน้ำมีประสิทธิภาพสูงสุด

ถังบำบัดน้ำเสีย คืออะไร

ถังบำบัดน้ำเสีย  เป็นอุปกรณ์ที่ใช้บำบัดน้ำเสียจากบ้านเรือนก่อนปล่อยลงสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะ หรือแหล่งน้ำธรรมชาติ ทำหน้าที่หลักในการย่อยสลายสารอินทรีย์ และสิ่งปฏิกูลต่างๆ โดยหลักการทำงานของถังบำบัดน้ำเสีย จะอาศัยจุลินทรีย์ธรรมชาติที่อยู่ในถังบำบัด ย่อยสลายของเสียและสิ่งปฏิกูล เปลี่ยนเป็นน้ำใสที่ปราศจากมลพิษ ทำให้น้ำเสียที่เข้าสู่ถังบำบัดสามารถนำไปใช้ใหม่หรือปล่อยไปยังสิ่งแวดล้อมได้อย่างปลอดภัย ถังบำบัดมักจะมีการจัดเตรียมและประมวลผลน้ำเสียในขั้นตอนต่าง ๆ เช่น การกักเก็บเศษส่วนของขยะและแบคทีเรีย การปรับสภาพและคุณภาพของน้ำ เพื่อลดความเป็นอันตราย และลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ

ถังบำบัดน้ำเสีย คือ

ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกใช้ ถังบำบัดน้ำเสีย

1. อัตราการสะสมของน้ำเสีย

การเลือกถังบำบัดต้องพิจารณาอัตราการสะสมของน้ำเสียที่ต้องการบำบัดในหนึ่งหน่วยเวลา เช่น ลิตรต่อวัน หรือมิลลิเมตรต่อวินาที โดยคำนึงถึงขนาดของโครงการ หรือการใช้งานที่ต้องการจะให้บริการด้วยระบบนี้ในระยะยาวภคบริโภคได้ในช่วงเวลาที่จำเป็น ตัวอย่างเช่น

สำหรับอาคารที่พักอาศัย

สามารถประมาณการได้จากจำนวนผู้อยู่อาศัย โดยเฉลี่ยแล้ว คนหนึ่งคนจะใช้น้ำประมาณ 200 ลิตรต่อวัน ดังนั้น อัตราการสะสมของน้ำเสียจะอยู่ที่ประมาณ ร้อยละ 80 ของปริมาณน้ำใช้ หรือ 160 ลิตรต่อคนต่อวัน

สำหรับอาคารพาณิชย์

อัตราการสะสมของน้ำเสียจะขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ โดยทั่วไปแล้ว ธุรกิจที่มีการใช้น้ำจำนวนมาก เช่น ร้านอาหาร โรงแรม จะมียอดสะสมน้ำเสียสูงกว่าธุรกิจที่ใช้น้ำน้อย เช่น ร้านขายของชำ สำนักงาน

2. ปริมาณน้ำเสีย

การวัดปริมาณน้ำเสียที่เข้าสู่ถังบำบัดต่อวันหรือต่อชั่วโมง เป็นข้อมูลที่สำคัญ เนื่องจากจะมีผลต่อการกำหนดขนาดของถังบำบัดที่เหมาะสมในการจัดการกับปริมาณน้ำเสียนั้นๆ

3. เวลาการพักการทำงาน

เวลาพัก คือเวลาที่น้ำเสียต้องอยู่ในถังบำบัดเพื่อให้เกิดกระบวนการบำบัดได้มีประสิทธิภาพ ปัจจัยนี้มีผลต่อขนาดของถังบำบัดที่จะต้องมีพื้นที่ให้เพียงพอสำหรับการบำบัดน้ำเสียในระยะเวลาที่กำหนด

4. ความต้องการในการลดสารตะกั่ว

ประสิทธิภาพในการลดสารตะกั่วต้องถูกพิจารณาให้เหมาะสมกับลักษณะของน้ำเสียที่จะบำบัด เช่น ความเข้มข้นของสารตะกั่ว และต้องการให้สารตะกั่วลดลงมากเท่าใด

  • ความเข้มข้นของสารตะกั่วในน้ำเสีย: การประเมินความเข้มข้นของสารตะกั่วในน้ำเสีย (เช่น COD – Chemical Oxygen Demand, BOD – Biochemical Oxygen Demand) เป็นการทำให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการปรับปรุงระบบสูงพอที่จะลดระดับสารตะกั่วให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด
  • ข้อกำหนดการลดสารตะกั่ว: ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดท้องถิ่นหรือระเบียบกฎหมายที่ต้องการให้น้ำเสียผ่านการบำบัดต้องมีระดับสารตะกั่วที่ต่ำกว่ากี่ ppm หรือมีค่า BOD/COD ต่ำกว่ากี่ %

5. ความต้องการในการชำระล้าง

ความถี่ในการชำระล้าง หรือการปรับปรุงระบบที่ใช้ในถังบำบัดน้ำเสีย เช่น ความถี่ในการทำความสะอาดถัง หรือการตรวจเช็คและบำรุงรักษาระบบ

  • ความถี่: การทำความสะอาดถังบำบัดน้ำเสียต้องทำโดยสม่ำเสมอเพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความถี่ขึ้นอยู่กับขนาดของถังและประเภทของน้ำเสียที่ถูกบำบัด แต่โดยทั่วไปแล้วจะต้องทำการทำความสะอาดอย่างน้อยทุก 6 เดือนถึง 1 ปี หรือตามคำแนะนำของผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายระบบบำบัดน้ำเสีย
  • ตรวจเช็ค: การตรวจเช็คและบำรุงรักษาระบบบำบัดน้ำเสียควรทำเป็นระยะเวลาที่สม่ำเสมอ เพื่อตรวจสอบสภาพของอุปกรณ์ที่ใช้ในการบำบัด รวมถึงระบบท่อทางที่อาจมีการอุดตันหรือความเสียหาย เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
  • ประเภทของระบบบำบัด: ระบบบำบัดแบบต่าง ๆ ต้องการการดูแลรักษาที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้ว ระบบบำบัดแบบธรรมชาติ เช่น บ่อพักตะกอน หรือ บ่อกรอง จะต้องการการดูแลรักษาน้อยกว่า ระบบบำบัดแบบเติมอากาศ หรือระบบบำบัดแบบไบโอฟิล์ม
  • ประสิทธิภาพการบำบัด: หากประสิทธิภาพการบำบัดของถังลดลง อาจต้องทำการชำระล้างหรือปรับปรุงระบบ
  • กฎหมายและข้อบังคับ: บางท้องถิ่นอาจมีกฎหมายหรือข้อบังคับกำหนดให้ต้องทำการบำรุงรักษาถังบำบัดน้ำเสียเป็นประจำ เพื่อไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัย

6. การจัดการกับกลิ่นและปฏิกิริยาเคมี

การออกแบบถังที่เหมาะสมสำหรับการควบคุมกลิ่นน้ำเสีย และปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นในกระบวนการบำบัดน้ำเสีย

7. พื้นที่ในการติดตั้ง

ต้องพิจารณาถึงพื้นที่ที่พร้อมให้ติดตั้งถังบำบัดอย่างเหมาะสม และที่มีความสะดวกสบายในการดูแลรักษา   

8. ค่าใช้จ่าย

คำนวณค่าใช้จ่ายและความต้องการในการติดตั้งระบบทั้งหมด ซึ่งประกอบไปด้วยต้นทุนในการติดตั้ง และการดูแลรักษา รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเลือกติดตั้งประเภทถังที่เหมาะสม และใช้งานได้อย่างคุ้มค่าในระยะยาว

เราคงเข้าใจกันมากขึ้นแล้วว่า ถังบำบัดน้ำเสีย คืออะไร และการเลือกใช้งานถังบำบัดน้ำเสียควรพิจารณาข้อมูลทั้งหมดนี้ เพื่อให้ได้ระบบบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับการใช้งานจริงของสภาพแวดล้อม ซึ่งควรเลือกซื้อจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน และต้องดูแลรักษาถังบำบัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ถังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากสนใจถังบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพสูง คุ้มค่าต่อการใช้งาน ติดต่อ GREENPAC ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถังบำบัดน้ำเสีย และถังเก็บน้ำในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ GREENPAC และ PCS พร้อมดีไซน์ล้ำสมัย ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://greenpactank.com

บทความล่าสุดของเรา