ในปัจจุบัน คุณภาพของน้ำกลายเป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันทั้งในสังคม โลกออนไลน์ และในสื่อต่าง ๆ โดยมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับประสิทธิภาพของสาธารณูปโภคและบริษัทต่าง ๆ ที่มีการดำเนินงานใด ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น เป็นต้น ส่งผลให้บริษัทจำนวนมากจึงเล็งเห็นความสำคัญของถังบําบัดน้ำเสียโรงงาน ต่อแนวทางปฏิบัติในการทำงาน
ทุกสัปดาห์ เราจะเห็นข่าวใหม่ ๆ เกิดขึ้นเกี่ยวกับผลที่ตามมาของการปล่อยน้ำเสียจากโรงงาน อุบัติเหตุเหล่านี้อาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อธรรมชาติและโครงสร้างพื้นฐานของระบบบำบัดน้ำเสีย ขยะที่เป็นพิษและสารเคมีสามารถฆ่าปลาและนกน้ำได้ ในขณะที่ขยะอินทรีย์สามารถอุดตันท่อและทำลายสมดุลอันของระบบนิเวศธรรมชาติได้เช่นกัน หากปล่อยทิ้งโดยไม่ได้รับการบำบัด
ถังเก็บน้ำเสียโรงงานอุตสาหกรรมเป็นภาชนะพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อจัดเก็บและบำบัดน้ำเสียที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรม หน้าที่หลักของถังเก็บน้ำเสียคือจัดเก็บน้ำเสียอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และให้การสนับสนุนที่จำเป็นสำหรับกระบวนการบำบัดน้ำเสียในภายหลัง โดยทั่วไปถังเหล่านี้ได้รับการออกแบบด้วยโครงสร้างที่ปิดสนิทเพื่อป้องกันการรั่วไหลของน้ำเสียและเป็นไปตามข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อม
ถังเก็บน้ำเสียอุตสาหกรรมมักใช้วัสดุที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง เช่น เหล็กเคลือบแก้ว สเตนเลส หรือเหล็กกล้าคาร์บอน วิธีนี้ช่วยให้ถังไม่เกิดการกัดกร่อนเมื่อสัมผัสกับน้ำเสียเป็นเวลานาน ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
เนื่องจากภาคส่วนอาหาร เครื่องดื่มและผู้ใช้น้ำเพื่ออุตสาหกรรมอื่น ๆ ตอบสนองต่อข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นต้องแน่ใจว่าถังบําบัดน้ำเสียโรงงานของตนส่งมอบคุณภาพน้ำและการปฏิบัติตามมาตรฐานที่จำเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
น้ำเสียที่เกิดจากภาคส่วนอาหารและเครื่องดื่มมีสารปนเปื้อนจำนวนมาก รวมทั้งไขมัน น้ำมัน หรือจารบี ทำให้มีความต้องการออกซิเจนและเคมี (BOD/COD) สูง กระแสน้ำเสียอาจมีความซับซ้อนและผันผวนมาก จึงต้องได้รับการบำบัดและกำจัดตามมาตรฐานที่ควบคุมอย่างเข้มงวด
การควบคุมอย่างเข้มงวด หมายถึง การบำบัดน้ำเสียในระดับที่ไม่สร้างความเสียหายต่อแหล่งน้ำหรือเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าหากปล่อยลงสู่สิ่งแวดล้อมโดยตรง หรือจะไม่รบกวนระบบบำบัดน้ำหรือถังบำบัดน้ำเสียในพื้นที่หากปล่อยลงท่อระบายน้ำ
กระบวนการบำบัดน้ำเสียมี 3 ขั้นตอน ได้แก่ การบำบัดทางกายภาพ (Physical Treatment) การบำบัดทางเคมี (Chemical Treatment) และการบำบัดทางชีวภาพ (Biological Treatment) โดยแต่ละขั้นตอนจะมุ่งเน้นไปที่ประเภทสารมลพิษที่เจาะจง
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกำจัดของแข็งขนาดใหญ่และสารอินทรีย์บางส่วนทางกายภาพ โดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการต่าง ๆ เช่น ของแข็งขนาดใหญ่ กระดาษ พลาสติก เศษอาหาร กรวด ทราย ไขมันและน้ำมัน โดยใช้อุปกรณ์ในการบำบัดทางกายภาพ คือ ตะแกรงดักขยะ ถังดักกรวดทราย ถังดักไขมันและน้ำมัน และถังตกตะกอน ซึ่งจะเป็นการลดปริมาณของแข็งทั้งหมดที่มีในน้ำเสียเป็นหลัก
ขั้นตอนนี้เน้นที่การกำจัดสารอินทรีย์ที่ละลายและแขวนลอยโดยใช้กระบวนการทางชีวภาพ วิธีการนี้จะใช้สำหรับน้ำเสียที่มีส่วนประกอบอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ค่าพีเอชสูงหรือต่ำเกินไป มีสารพิษ มีโลหะหนัก มีของแข็งแขวนลอยที่ตกตะกอนยาก มีไขมันและน้ำมันที่ละลายน้ำ มีไนโตรเจนหรือฟอสฟอรัสที่สูงเกินไป และมีเชื้อโรค ทั้งนี้จะใช้ถังบำบัดน้ำเสีย ได้แก่ ถังกวนเร็ว ถังกวนช้า ถังตกตะกอน ถังกรอง และถังฆ่าเชื้อโรค
ขั้นตอนนี้มุ่งเน้นการปรับปรุงคุณภาพน้ำให้ดีขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพน้ำที่กำหนด โดยกำจัดสิ่งปนเปื้อนและอนุภาคแขวนลอยขนาดเล็กที่เหลือทั้งหมด ซึ่งจะใช้จุลินทรีย์ในการกำจัดสิ่งเจือปนในน้ำเสียอย่างสารคาร์บอนอินทรีย์ ไนโตรเจน และฟอสฟอรัส ความสกปรกเหล่านี้จะถูกใช้เป็นอาหารและเป็นแหล่งพลังงานของจุลินทรีย์ในถังเลี้ยงเชื้อเพื่อการเจริญเติบโต ทำให้น้ำเสียมีค่าความสกปรกลดลง
การนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ถือเป็นแนวคิดใหม่สำหรับบริษัทอุตสาหกรรมและผู้ผลิตที่ต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดเงิน และปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ หากคุณกำลังมองหาวิธีปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของน้ำเสียหรือถังบำบัดน้ำเสียโรงงาน ติดต่อ บริษัท กรีนโพรดักส์ แอนด์ ไฟเบอร์เทค จำกัด ย่านนนทบุรี เราเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถังบำบัดน้ำเสียและถังเก็บน้ำ PE, FRP และเป็นผู้ออกแบบ ผู้ผลิตสินค้าถังเก็บน้ำ ถังบำบัดน้ำเสีย ภายใต้แบรนด์ GREENPAC และ PCS โดยบริษัท มุ่งเน้นเพื่อตอบสนองความต้องการ ของลูกค้าในทุกกลุ่มงาน อาทิ โรงงานอุตสาหกรรม ก่อสร้างอาคาร ที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน ผู้รับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ https://greenpactank.com
สินค้าและบริการ
ติดต่อเรา